
รู้หรือไม่ว่าตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562 กฎหมายมีการแก้ไขใหม่ทำให้เราสามารถตัดหรือโค่นต้นไม้หวงห้ามที่อยู่ในที่ดินของเราได้แล้วนะ แต่แน่นอนว่าต้องทำภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายด้วย การตัดตันไม้หวงห้ามในที่ดินของเรา ถ้าไม่ระมัดระวังก็ยังมีความผิดตามกฎหมายอยู่นะครับ แถมเป็นความผิดทางอาญาเสียด้วย ตัดต้นไม้ผิดติดคุกได้เลยนะครับ ที่นี้จะตัดต้นไม้ยังไงไม่ให้ติดคุกบ้าง ZENLAW จะอธิบายให้ฟัง!!
เนื่องจากประเทศไทยมีการพัฒนาที่ดินมากขึ้น มีที่ดินที่ได้รับการออกโฉนดเพิ่มขึ้นและเมื่อที่ดินได้รับการออกโฉนดแล้วนั้นย่อมเห็นได้ว่าที่ดินนั้นไม่ใช่พื้นที่ป่าอีกต่อไป แต่การพัฒนาที่ดินกลับประสบปัญหาบางประการด้วยเหตุว่าบนในที่ดินนั้นกลับมีต้นไม้หวงห้ามขึ้นอยู่ จึงทำให้กลายเป็นที่ดินที่มีโฉนดแต่กลับทำประโยชน์ไม่ได้!! เพราะการจะตัดต้นไม้หวงห้ามนั้นมีความผิดตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 จึงมีพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2562 ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฉบับใหม่นี้มีการแก้ไขสำคัญคือ ให้มีการยกเลิก มาตรา 7 ของพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และให้ใช้พระราขบัญญัติป่าไม้ฉบับใหม่นี้แทน โดยข้อความที่แก้ไขใหม่นั้นระบุไว้ว่า “ไม้ชนิดใดที่ขึ้นในป่าจะให้เป็นไม้หวงห้ามประเภทใด ให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา สำหรับไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม หรือไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนนตรี ให้ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม”
ดังนั้นจะเห็นว่าการที่เราจะตัดต้นไม้หวงห้ามที่อยู่ในที่ดินของเราได้หรือไม่นั้นต้องดูก่อนว่าที่ดินของเรานั้นเป็นที่ดินประเภทไหน
กรณีเป็นที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง กล่าวคือ ที่ดินที่มีกรรมสิทธ์ คือ ที่ดินน.ส.4 หรือที่ดินที่มีโฉนด (ครุฑแดง) ส่วนที่ดินที่มีสิทธิครอบครองการทำประโยชน์ คือ ที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือคือที่ดิน น.ส.3 ก. (ครุฑเขียว) หรือที่ดิน น.ส.3 หรือที่ดิน น.ส.3 ข. (ครุฑดำ)
ที่ดินดังกล่าวมานี้เป็นที่ดินที่ได้มีการออกโฉนดแล้วหรือสามารถออกโฉนดได้ในอนาคตย่อมเป็นพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาที่ดินแล้ว มิใช่พื้นที่ป่าอีกต่อไป ต้นไม้ที่อยู่บนที่ดินดังกล่าวนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นมาเองอยู่แล้วหรือมีการปลูกขึ้นก็ตาม ต้นไม้นั้นไม่นับเป็นต้นไม้หวงห้าม ดังนั้นจึงสามารถตัดได้หมด ไม่มีความผิดตามกฎหมายอีกต่อไป
กรณีเป็นที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ กล่าวคือ ที่ดินตามประเภทดังกล่าวนี้
– ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 (ครุฑแดง/ครุฑน้ำเงิน) เป็นที่ดินที่ให้สิทธิเพียงการครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ในการเกษตรเท่านั้น
– ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ใบจอง หรือ ที่ดิน น.ส.2 เป็นที่ดินที่อนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเป็นการชั่วคราว
– ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ทำกินในพื้นที่เขตป่าไม้ หรือที่ดิน สทก. เป็นที่ดินที่ยังอยู่ในเขตป่าไม้
– ที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์มีเพียงแบบยื่นภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ที่ดิน ภ.บ.ท.5 เป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น
ที่ดินดังกล่าวมานี้เป็นที่ดินที่ไม่สามารถพัฒนาที่ดินได้หรือเป็นที่ดินที่ยังคงอยู่ในเขตป่าไม้ ดังนั้นแล้ว การจะตัดไม้หวงห้ามในที่ดินดังกล่าวได้นั้นต้องเป็นต้นไม้หวงห้ามที่มีการปลูกขึ้นเองเท่านั้น ถ้าต้นไม้หวงห้ามนั้นมีอยู่แล้ว ไม่ได้เกิดขึ้นโดยการปลูกก็ไม่สามารถจะตัดหรือโค่นต้นไม้หวงห้ามนั้นได้ การตัดไม้หวงห้ามนั้นย่อมยังมีความผิดตามกฎหมายอยู่ (ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 396/2566 และคำพิพากษาฎีกาที่ 397/2566)
และรู้ไหมต้นไม้ที่เป็นไม้หวงห้ามนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ
– ไม้หวงห้ามประเภท ก. คือ ไม้หวงห้ามธรรมดา ซึ่งเป็นไม้ที่สามารถจะตัดหรือโค่นไม้ได้ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ ได้รับสัมปทานก่อน กับ
– ไม้หวงห้ามประเภท ข. คือ ไม้หวงห้ามพิเศษ ซึ่งเป็นไม้หายากหรือไม้ที่ควรสงวน ไม่สามารถจะตัดหรือโค่นได้ เว้นแต่รัฐมนตรีจะได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
และตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2562 นั้นได้เห็นว่าไม้บางชนิดสามารถแปรรูปเป็นไม้เศรษฐกิจได้ จึงมีการได้รับยกเว้นให้ต้นไม้ 18 ชนิด ที่ขึ้นในป่า จัดมาอยู่ในไม้หวงห้ามประเภท ก. ซึ่งไม้ทั้ง 18 ชนิดนั้นได้แก่ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง ไม้อีเม่ง ไม้พะยุงแกลบ ไม้กระพี้ ไม้แดงจีน ไม้ขะยุง ไม้ซิก ไม้กระซิก ไม้กระซิบ ไม้พะยูง ไม้หมากพลูตั้กแตน ไม้กระพี้เขาควาย ไม้เก็ดดำ ไม้อีเฒ่า และไม้เก็ดเขาควาย
มาถึงตอนนี้ ZENLAW ว่าเราทุกคนสามารถแยกได้แล้วว่าต้นไม้ไหนบ้างที่เราจะสามารถตัดหรือโค่นได้โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่อย่างไร ZENLAW ก็ขอแนะนำว่าเพื่อประโยชน์ในการจำแนกแหล่งที่มาของไม้นั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เราเป็นเจ้าของที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง หรือเป็นเจ้าของที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิและได้ปลูกไม้หวงห้ามในที่ดินนั้น หากจะตัดหรือโค่นไม้หวงห้ามก็ต้องไปแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อขอหนังสือรับรองไม้ ไม่เช่นนั้นต้นไม้ที่เราตัดหรือโค้นมานั้นมันก็ยังดูเป็นไม้เถื่อน อาจมีผลทำให้ไม่มีใครกล้ารับซื้อไม้ดังกล่าวไป และหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบไม้ที่เราตัดอาจถูกยึดไว้จนกว่าจะมีการตรวจสอบได้แน่นอนแล้วว่าไม้ที่เราตัดมานั้นไม่ใช่ไม้เถื่อนที่ตัดมาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งมันทำให้เราทั้งเสียเวลาและมีโอกาสเสียไม้นั้นไปเลยก็ได้นะ