
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ เทรดการเลี้ยงสัตว์มาแรงมาก ซึ่งอาจจะเลี้ยงเพราะเอาไว้คลายเหงา สงสาร หรือเพราะอาการตกหลุมรักในความน่ารักของน้องหมา น้องแมว หรือบรรดาสัตว์โลกน่ารักทั้งหลาย เช่น กระต่าย นก ปลา งู แต่ก่อนที่คุณจะรับน้องๆ มาเลี้ยง นอกจากความรัก ความใส่ใจที่ผู้เลี้ยงต้องมีต่อน้องๆ แล้ว มีอีกอย่างที่สำคัญที่ผู้เลี้ยงจะต้องทราบ คือ กฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ นั่นเอง! เพราะสัตว์เลี้ยงของเราอาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปก่อความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้านจนทำให้ได้รับอันตราย วันนี้ ZEN LAW จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกฎหมายที่ทาสทั้งหลาย จะต้องรู้จักไว้บ้างกันค่ะ ได้แก่
- พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557
- พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535
- ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433, มาตรา 446
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377, มาตรา 394, มาตรา 395, มาตรา 397
เมื่อรู้จักกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงกันแล้ว ก็อย่าถอดใจจนไม่เลี้ยงน้องๆ หรือเอาน้องๆ ไปปล่อยกันเลยนะคะ ZEN LAW มีวิธีป้องกันง่ายๆ ที่จะช่วยไม่ให้สัตว์เลี้ยงน่ารักของคุณไปก่อความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้าน
สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องรู้ ประการแรกเลย คือ ต้องศึกษาว่าพื้นที่อาศัยของผู้เลี้ยง เหมาะที่จะเลี้ยงสัตว์ชนิดใดและสายพันธุ์สัตว์ที่ต้องการเลี้ยงมีลักษณะนิสัยอย่างไร และควรเลี้ยงแบบไหน ซึ่งหากผู้เลี้ยงเลือกเลี้ยง สุนัขสายพันธุ์ดุร้าย อย่าง พิทบูลเทอเรีย, บลูเทอเรีย, รอทไวเลอร์ เป็นต้น ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 สุนัขสายพันธุ์ดังกล่าว กำหนดให้ เป็น “สุนัขควบคุมพิเศษ”
สุนัขควบคุมพิเศษ หมายความว่า
1. สุนัขสายพันธุ์ที่ดุร้าย เช่น พิทบูลเทอเรีย, บลูเทอเรีย, สแตฟฟอร์ดเชอร์บลูเทอเรีย รอทไวเลอร์ และฟิล่าบราซิลเรียโร เป็นต้น
2. สุนัขที่มีประวัติทำร้ายหรือพยายามทำร้ายคน
ดังนั้นหากจะเลี้ยงน้องๆ หมาดุเหล่านี้ก็ต้องระวังและควบคุมให้ดี ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดอาญาฐานนี้ บุคคลที่จะต้องรับผิดชอบ คือ เจ้าของสัตว์เลี้ยง หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงของตนเอง หรือไม่ควบคุมดูแลให้ดี จนสัตว์เลี้ยงได้ไปทำร้าย หรือทำลายทรัพย์สิน ก่อให้ความเดือดร้องแก่บุคคลอื่น เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
แต่ถ้าเป็นกรณี สัตว์จรจัดล่ะ ใครคือ เจ้าของสัตว์เลี้ยง ในบรรดาคนรักสัตว์ทุกคนแน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งที่คนรักสัตว์ทำกันเมื่อเห็นสัตว์จรจัด หรือเห็นว่าสัตว์ตัวนั้นมาอยู่แถวบ้านตลอดจนเกิดความสงสาร เอาข้าว เอาน้ำไปให้สัตว์ตัวนั้นกิน ตลอดจนการตั้งชื่อสัตว์ตัวนั้น เช่นนี้แล้ว หากสัตว์ตัวนั้นไปวิ่งไล่กัดคน หรือกระโดดเห่าใส่คน หรือไปวิ่งตัดหน้ารถ จนรถเกิดอุบัติเหตุทำให้ทรัพย์สินเสียหาย คุณคือเจ้าของสัตว์เลี้ยง ค่ะ
เมื่อคุณเลือกที่จะเลี้ยงน้องๆ เหล่านี้แล้วดูแลเขาให้ดี หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยง หรือเจ้าของสัตว์เลี้ยงประมาทไม่ดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดี จนทำอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประการที่สอง ระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราไปสร้างความรำคาญหรือไปรบกวนเพื่อนบ้าน กรณีนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยอีกปัญหาหนึ่ง เช่น สัตว์เลี้ยงของเราเห่าหอน หรือร้อง กลางดึก จนรบกวนเวลาพักผ่อนของเพื่อนบ้าน หรือเจ้าของสัตว์เลี้ยงปล่อยให้สัตว์เลี้ยงขับถ่ายไม่เป็นที่ และเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่จัดเก็บ ทำความสะอาดจนส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน หรืออื่นๆ ดังนี้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคแรก บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท ดังนั้น ให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหมั่นสังเกตพฤติกรรม และตรวจเช็คสุขภาพสัตว์เลี้ยงว่ามีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ หากสัตว์เลี้ยงของคุณเห่าหอน หรือร้องเสียงดัง ในเวลากลางคืน ให้คุณออกมาดูสัตว์เลี้ยงของคุณมีเหตุอะไรถึงได้ เห่าหอนหรือร้องเสียงดัง และฝึกสัตว์เลี้ยงของคุณให้ขับถ่ายให้เป็นที่ และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน
ประการที่สาม ระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยการสร้างความเสียหายในที่นี้ คือ สัตว์เลี้ยงของเราไปกัดหรือทำลายทรัพย์สินของคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย หรือขับถ่ายในที่สาธารณะหรือในบ้านคนอื่น เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ที่สั่งห้ามเลี้ยง เช่นนี้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์จากการทำงาน หรือ ขาดรายได้แก่ฝ่ายที่เสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 วรรคแรก บัญญัติไว้ว่า ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยง การรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นย่อมจะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น
ขนาดมนุษย์เราอย่างเรา ยังต้องการความรัก ความเอาใจใส่ และอยากได้รับการดูแลที่ดี เมื่อคุณเลือกที่จะเอาน้องเขามาเลี้ยงแล้ว แค่คุณให้ความรักอย่างเดียวไม่พอ ขอให้คุณเอาใจใส่ ดูแล อย่าปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงของคุณ รวมถึงการต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่น และต่อสังคม หากสัตว์เลี้ยงของเราก่อให้เกิดความเสียหายด้วย นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่ ZEN LAW นำมาให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ที่กำลังจะเลี้ยงได้ศึกษาหาข้อมูลนะคะ หากท่านมีปัญหาอยากปรึกษา หรือมีข้อสงสัยทางกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ท่านพบเจอมาปรึกษาเราสิคะ ZEN LAW ยินดีให้บริการ