
แกร ชั้นโดยหมายศาล ทำไงดี : ทำใจสิแกร ( ภาค 2 ส่วนอาญา ตอนที่ 1 )
ในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของหมายในส่วนของคดีอาญา แต่ครั้งนี้ทำใจไม่ได้แล้วนะคะ ได้รับหมายส่วนคดีอาญาอย่านิ่งนอนใจ คิดอะไรไม่ออกนึกถึงเราสิ ZENLAW ช่วยคุณได้ ก่อนอื่นเลย เราต้องรู้ก่อนว่าสิทธิของผู้ต้องหามีอะไรบ้าง
ถึงแม้จะตกเป็นผู้ต้องหา หรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุม หรือคุมขัง หรือจำเลย กฎหมายก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แค่ได้รับหมายอาญาก็เครียดจะแย่แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้กำหนดสิทธิของผู้ต้องหาเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม และเป็นการป้องกันมิให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกลงโทษในความผิดที่ตนมิได้กระทำ จึงได้ให้สิทธิความคุ้มครองของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง ไว้ดังนี้
ชั้นการสอบสวน
1. สิทธิในการแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ที่ตนไว้วางใจทราบว่า ถึงการถูกจับกุมและทราบถึงสถานที่ที่ตนถูกควบคุมในโอกาสแรก เช่น เราจะเลือกคนที่ไว้ใจได้หรือทนายความมารับทราบข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งให้เราทราบก็ได้
2. สิทธิในการพบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว และ มีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในชั้นสอบสวน เรื่องนี้ ZENLAW พร้อมให้คำปรึกษา
3. สิทธิในการได้รับการเข้าเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร
4. สิทธิในการเข้ารักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย รวมทั้งหากมีโรคประจำตัวเราต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็วและทันถ่วงที เพื่อป้องกันอันตรายเมื่ออาการของโรคกำเริบ
5. สิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การในชั้นสอบสวนได้ เคยได้ยินไหมคะ ประโยคที่ว่า “ คุณมีสิทธิที่จะไม่พูดเพราะคำพูดของคุณอาจใช้เป็นพยานในชั้นศาล ” ตามที่เราเคยได้ยินในละคร หนังต่างๆ ประโยคนี้ใช้ได้จริง ไม่พูดกันเล่นๆนะ เพราะเป็นหนึ่งในสิทธิของผู้ถูกจับกุมหรือผู้ต้องหา ที่จะให้การหรือไม่ให้การในชั้นสอบสวนก็ได้
6. สิทธิที่จะไม่ถูกบังคับขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับ ทำร้ายร่างกาย หรือกระทำโดยมิชอบ การสอบสวนจะต้องกระทำโดยถูกต้อง โดยที่ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง จะต้องไม่ได้รับอันตรายใดๆ
7. สำหรับผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี พนักงานสอบสวน จะต้องดำเนินการดังเช่นวิธีการสอบสวนพยานที่เป็นเด็ก โดยแยกดำเนินการในสถานที่ที่เป็นสัดส่วนสำหรับเด็ก และ ให้มีนักจิตวิทยาเด็ก หรือ นักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วยในการถามปากคำเด็กดังกล่าว
8. ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง ไม่สามารถพูดหรือเข้าใจภาษาไทยได้ ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการจัดหาล่ามภาษาไทยท้องถิ่น ล่ามภาษาถิ่น และหากผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง ไม่สามารถพูด หรือได้ยิน หรือสื่อความหมายได้ และไม่มีล่าม ก็ให้จัดหา ล่ามภาษามือให้ โดยพนักงานสอบสวน อัยการ หรือศาล มีหน้าที่ต้องจัดหาล่ามให้โดยเร็วที่สุด และล่ามดังกล่าวนั้นจะต้องแปลให้ถูก และต้องสาบานตนหรือปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่โดยสุจริต จะไม่เพิ่มเติมหรือตัดทอนสิ่งที่แปล
9. ย่อมได้รับสิทธิที่จะประกันตัว ดังที่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 29 และ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106 , มาตรา 107 ต่างกำหนดสิทธิของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง ให้ได้รับสิทธิในการประกันตัว โดยผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง จำเลย หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา หรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง จำเลย ชั่วคราวได้ โดยไม่ต้องมีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกัน ได้แล้วแต่กรณี
– ผู้ต้องหาถูกควบคุมอยู่ และยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล ให้ยื่นคำร้องต่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ
– ผู้ต้องหาต้องขังตามหมายศาลและยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล ให้ยื่นคำร้องต่อศาลดังกล่าว
– ผู้ต้องหาถูกฟ้องแล้ว ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำระคดีนั้น
เมื่อยื่นขอปล่อยตัวขั่วคราวแล้วเจ้าพนักงานมีหน้าที่รับสั่งการโดยเร็วและผู้ต้องหามีสิทธิได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่!!! บางทีผู้ต้องหาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวก็ได้นะ เช่น มีพฤติการณ์จะหลบหนี , จะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน , จะไปก่ออันตรายอื่นๆ , หลักประกันไม่น่าเชื่อถือ , หากปล่อยตัวชั่วคราวไปจะไปก่อความเสียหายตอ่การสอบสวนหรือการดำเนินคดี
เจ้าจงจำไว้ สิทธิความคุ้มตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เจ้าหน้าที่ซึ่งรับมอบตัวผู้ต้องหา หรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง มีหน้าที่แจ้งให้ทราบในสิทธินั้นๆนะ ถ้าไม่แจ้ง ก็ทวงสิคะ
ชั้นฟ้อง
1. มีสิทธิที่จะได้การพิจารณาคดีด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม
2. มีสิทธิที่จะแต่งทนายแก้ต่างในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาในศาลชั้นต้น ตลอดจนชั้นศาลอุทธรณ์ และศาลฏีกา ตลอดจนปรึกษาทนายหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว กล่าวคือ จะต้องได้รับสิทธิในการจัดหาทนายความเพื่อช่วยเหลือในคดี โดย ในวันที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีให้รัฐจัดหาทนายความให้(ทนายอาสา) หรือจะให้ติดต่อทนายความที่เฉพาะเจาะจง(ว่าจ้างทนายเอง) หรือทนายความที่ตนไว้ใจก็ได้เช่นกัน สะดวกแบบไหนเลือกได้เลยคะ
3. มีสิทธิตรวจดูสิ่งที่ยื่นเป็นพยานหลักฐานและคัดสำเนาหรือถ่ายรูปสิ่งนั้นๆ และตรวจดูสำนวนการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาของศาล และคัดสำเนาหรือขอรับสำเนาที่รับรองว่าถูกต้องโดยเสียค่าธรรมเนียมตามระเบียบ เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมนั้น และตรวจสำเนาคำให้การของตนในชั้นสอบสวน หรือเอกสารประกอบคำให้การของตน ว่าถูกต้องตรงกันไหม แต่ถ้าหากเรามีทนาย เราก็ให้ทนายจัดการในส่วนนี้ได้เลย เพราะทนายที่เราแต่งตั้งย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกันและง่ายต่อการดำเนินการด้วย
: ข้อมูลอ้างอิง ตามประมวลกฎหมาวิธีพิจารณาความอาญา และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
สรุปเลยนะคะ แม้เราจะตกเป็นผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง หรือจำเลย ในคดีอาญา แต่อย่าลืมนะว่า เรายังมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่ว่าเราจะกระทำผิดหรือไม่ก็ตาม เพราะการดำเนินคดีในส่วนของอาญานั้น เป็นการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับเนื้อตัว ร่างกาย ความหมายคือการดำเนินคดีในส่วนของอาญานั้นมีโทษในการคุมขัง ทำให้เราขาดอิสระภาพในการใช้ชีวิต เหมือนคำที่ว่า “ ติดคุกหัวโต ไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวัน ” เพราะฉะนั้น กฎหมายจึงระบุสิทธิเอาไว้ดังที่ปรากฎตามประมวลกฎหมาวิธีพิจารณาความอาญา และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ว่า “ ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้… ” ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อคุ้มครอง สิทธิของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับซึ่งถูกจับกุมหรือคุมขัง ในคดีอาญา เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล
>>> อะอะ ยังไม่จบนะจร๊ะ ติดตามตอนต่อไป ใน แกร ชั้นโดยหมายศาล ทำไงดี : ทำใจสิแกร ( ภาค 2 ส่วนอาญา ตอนที่ 2 )