โดนหมายศาลคดีอาญาทำอย่างไรดี ตอนที่2

แกร ชั้นโดยหมายศาล ทำไงดี : ทำใจสิแกร ( ภาค 2 ส่วนอาญา ตอนที่ 2 )
ครั้งที่แล้วเราได้รู้กันไปแล้วในเรื่องของสิทธิของผู้ต้องหาว่ามีอะไรบ้าง คราวนี้เรามาต่อกันเลยดีกว่า ว่าหมายในส่วนอาญาคืออะไร แต่เหมือนเดิม หากได้รับหมายอาญา อย่านิ่งนอนใจ อย่าคิดว่าไม่มีอะไร ให้รีบตรวจสอบให้ละเอียดว่าหมายอาญา ที่รับมานั้นคืออะไร หากคิดอะไรไม่ออกปรึกษาเราสิ ZENLAW มีคำตอบ มา เริ่มเลย

หมายอาญา

1.หมายเรียก คือ หนังสือที่ออกมาเพื่อเรียกให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด มาที่พนักงานสอบสวน หรือ มาที่พนักงานฝ่ายปกครอง หรือ มาที่ศาล เพื่อทำการสอบสวน หรือ ไต่สวนมูลฟ้อง หรือ พิจารณาคดีหรือการอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งบุคคลนั้นอาจจะเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ก็ได้นั้น โดยหลักเกณฑ์ของหมายเรียกต้องทำเป็นหนังสือและมีเนิ้อหาในหนังสือดังนี้

          – สถานที่ที่ออกหมายชัดเจน

          – วันเดือนปีที่ออกหมาย

          – ชื่อ และ ตำบล ที่อยู่ ของบุคคลที่ออกหมายเรียกให้มา (เรียกง่ายๆว่า ออกหมายเรียกให้ใครต้องแจ้งชื่อและที่อยู่ให้ชัดเจนนั้นเอง)

          – เหตุแห่งการที่ต้องเรียกผู้นั้นมา (เช่น หมายเรียกให้เป็นพยาน ในการสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมในคดี ต้องชัดเจน ว่าหมายเรียกนั้นเรียกไปทำอะไร จะออกหมายมาลอยๆโดยไม่ได้บอกว่าให้ไปทำอะไรไม่ได้)

          – สถานที่ วันเดือนปี และเวลาที่จะให้ผู้นั้นไปถึง ( เช่น ณ สถานีตำรวจเอบีซี ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 9.30 นาฬิกา ต้องระบุให้ชัดเจนและแน่นอน )

          – ลายมือชื่อและประทับตราของศาล หรือลายมือชื่อและตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ออกหมาย อันนี้สำคัญนะคะ จะต้องลงรายละเอียดให้ชัดเจน ว่าหมายเรียกนี้ใครเป็นคนออก มีตราประทับของศาลถูกต้องไหม

โดยรายละเอียดดังกล่าวมาแล้ว เมื่อได้รับหมายเรียกเราต้องตรวจสอบให้ดีนะคะ ว่ารายละเอียดในหมายเรียกนั้นครบถ้วนไหม เดี๋ยวมิจ(ฉาชีพ)เยอะ ต้องระวัง แต่ถ้าไม่มั่นใจ ส่งให้ ZENLAW ช่วยตรวจสอบได้นะคะ

2.หมายอาญา คือ หนังสือที่ออกมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการ จับ ขัง จำคุก หรือ ค้นในที่รโหฐานเพื่อหาตัวคน หรือ สิ่งของ ต้องมีคำสั่ง หรือ หมายศาลสำหรับการที่จะต้องการ ให้เจ้าหน้าที่กระทำนั้นๆ หรือ หากบุคคลนั้นเป็นผู้ต้องขังหรือจำคุกจะปล่อยได้ก็ต่อเมื่อ มีหมายปล่อยของศาล โดยในหมายประเภทนี้จะต้องเป็นหมายที่ได้รับรองว่าออกโดยถูกต้องไม่ว่าหมายนั้นจะออกโดยวิธี โทรศัพย์ โทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่น ตลอดจนสำเนาหมายต่างๆ ศาลเป็นผู้มีอำนาจออกหมายอาญา

โดยหลักเกณฑ์ของหมายจับ หมายค้น หมายขัง หมายจำคุก หรือหมายปล่อย มีดังนี้

2.1 สถานที่ที่ออกหมาย(ต้องระบุให้ชัดเจน)

2.2 วันเดือนปีที่ออกหมาย

2.3 เหตุที่ต้องออกหมาย

2.4 (1)ในกรณีออกหมายจับ ต้องระบุชื่อหรือรูปพรรณของบุคคลที่จะถูกจับ (เรื่องนี้ต้องชัดเจนเพราะถ้าจับผิดคน จะงานเข้าได้นะ)

     (2)ในกรณีออกหมายขัง หมายจำคุก หรือหมายปล่อย ต้องระบุชื่อบุคคลที่จะถูกขัง จำคุก หรือปล่อย

     (3)ในกรณีออกหมายค้น ให้ระบุสถานที่ที่จะค้นและชื่อ หรือ รูปพรรณบุคคล หรือ ลักษณะสิ่งของที่ต้องการค้นกำหนดวันเวลาที่จะทำการค้นและชื่อกับตำแหน่งของเจ้าพนักงานผู้จะทำการค้นนั้น

2.5 (1)ในกรณีออกหมายจับ หมายขัง หรือหมายค้นให้ระบุความผิด หรือวิธีการเพื่อความปลอดภัย

     (2)ในกรณีออกหมายจำคุก ให้ระบุความผิดและกำหนดโทษตามคำพิพากษา

     (3)ในกรณีออกหมายขังหรือหมายจำคุก ให้ระบุสถานที่ที่จะให้ขังหรือจำคุก

     (4)ในกรณีออกหมายปล่อยให้ระบุเหตุที่ให้ปล่อย

2.6 ลายมือชื่อและตราประทับของศาล

3.หมายจับ หมายถึง หนังสือที่ออกมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการ จับ ผู้ต้องหา จำเลย หรือ นักโทษ รวมทั้งสำเนาหมายจับที่ได้รับรองว่าถูกต้อง ตลอดจนสำเนาหมายจับที่ได้ส่งทาง โทรศัพย์ โทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่น โดยหมายประเภทนี้จะออกได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลนั้นน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่า 3 ปี หรือ มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ากระทำผิดอาญาและมีเหตุที่เชื่อว่าจะหลบหนี หรือ จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือ ก่ออันตรายประการอื่นๆ หรือ ถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือ ไม่มาตามหมายเรียก หรือ หมายนัดโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันสมควร ให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี

4. หมายค้น หมายถึง หนังสือที่ศาลได้ออกตามเหตุของกฎหมายเพื่อค้นหาบุคคลหรือสิ่งของในที่รโหฐาน เพื่อพบและ ยึดไว้เป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือไม่สามารถจะทำการยึดไว้โดยวิธีการอื่นไม่ได้แล้ว

5.หมายขัง หมายถึง หนังสือที่ศาลเป็นผู้ออกเพื่อกักขังผู้ต้องหาหรือจำเลยตามหมายนั้นโดยพลัน ไว้ในระหว่างสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือ พิจารณาคดี

6.หมายจำคุก หมายถึง หนังสือที่ศาลเป็นผู้ออกเพื่อนำตัวผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุกหรือประหารชีวิตหรือจำคุกแทนค่าปรับ

7.หมายปล่อย หมายถึง หนังสือที่ศาล สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการปล่อยผู้ต้องหา จำเลย หรือ นักโทษตามคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล โดยหมายปล่อยนั้นจะออกให้ในกรณี ศาลสั่งปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องขังไว้ คดีไม่มีมูล พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องยุติการสอบสวน โจทก์ถอนฟ้องหรือมีการยอมความ หรือศาลตัดสินให้ลงโทษโดยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การจำคุกหรือประหารชีวิต ( เช่น ชำระค่าปรับเป็นเงินแทนการจำคุก )

หมายนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา

การไต่สวนมูลฟ้อง คือ กระบวนการไต่สวนของศาลเพื่อวินิจฉัยถึงมูลคดีซึ่งจำเลยต้องหา

อย่างที่ได้แจ้งไว้แล้วนะคะว่า เมื่อเราได้รับหมายอาญา ให้แล้วดูรายละเอียดในหมายว่า หมายนั้นคือหมายอะไร ถ้าเป็นหมายนัดไต่สวนมูลฟ้อง ให้ตรวจดูว่าศาลได้กำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องในวัน เวลา สถานที่ใด และคำฟ้องมีสาระสำคัญประการใด ได้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ อย่างไร และหากตรวจดูแล้วพบว่าเราไม่แน่ใจ ว่าสิ่งที่โจทก์ระบุในคำฟ้องนั้นมีมูลความจริงหรือไม่ ให้ดำเนินการ ดังนี้

1. หากมีมูลความจริง และท่านประสงค์จะขอประนีประนอมกับโจทก์ ก็สามารถเจรจากันได้ซึ่งหากโจทก์ยินยอมตามที่ตกลงกัน และยินยอมถอนฟ้องคดีก็เป็นอันจบไป ในคดีอาญาที่ไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีเอง ตามกฎหมายศาลจะต้องทำการไต่สวนมูลฟ้องเสียก่อนว่าคดีมีมูลหรือไม่

2. หากคดีมีมูลความจริงศาลก็จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณาต่อไป ถ้าศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วพบว่าคดีไม่มีมูลความจริง ศาลก็จะมีคำสั่งไม่ประทับรับฟ้องของโจทก์ คดีก็เป็นอันจบไป

3. หากท่านได้รับหมายนัดแล้วจำต้องดูรายละเอียดว่า ศาลกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องวันใด และ ควรรีบนำสำเนาคำฟ้องพร้อมข้อเท็จจริงในคดีและพยานหลักฐานปรึกษาทนายความทันที เพื่อให้ทนายความตรวจสอบว่าควรจะดำเนินการต่อไปในทิศทางใด เพื่อให้วันนัดไต่สวนมูลฟ้อง

4. หากคดีไม่มีมูลศาลจะยกฟ้อง โดยในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องท่านไม่จำเป็นต้องไปศาล เนื่องจากหากไปศาลในวันดังกล่าว และ ศาลได้ทำการไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ศาลก็จะประทับรับฟ้อง ท่านจะตกเป็นจำเลยและถูกควบคุมตัว ซึ่งจะต้องมีการยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวต่อไป

: ข้อมูลอ้างอิงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

จากบทความหมายอาญา ที่กล่าวมาแล้วทั้งตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 จะเห็นได้ว่าหมายศาลในส่วนอาญานั้น หากท่านได้รับ จะนิ่งเฉย จะช่างมันไม่ได้ ต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดให้ดีดี ว่าหมายส่วนอาญาที่ตนได้รับนั้นเป็นหมายอะไร ตนกระทำความผิดดังกล่าวหรือไม่ และ ควรรีบปรึกษาทนายความก่อน เพื่อให้ทันเวลาที่กำหนดในหมายนั้นๆ เพราะหมายอาญานั้น มีผลและมีโทษเกี่ยวกับกับเนื้อตัวร่างการ รวมทั้งอิสระในการดำเนินชีวิต จะปล่อย หรือ นิ่งนอนใจไม่ได้เด็ดขาด แม้จะมีกฎหมายมารองรับและให้สิทธิของผู้ต้องหาไว้ก็ตาม เพราะบางครั้งมันอาจจะสายเกินไป!!!

ตัวอย่างหมายอาญา ประเภทต่างๆ

Scroll to Top