
ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทในชีวิตประจำวันมาก และมีผู้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่น FACEBOOK TWITTER INSTAGRAM ซึ่งบางครั้งผู้ใช้งานได้โพสต์ข้อความ หรือแสดงความคิดเห็นเกินขอบเขตทำให้บุคคลอื่น หรือตัวเราเดือดร้อน ZENLAW มีวิธีรับมือและป้องกันไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต้องกล่าวกันก่อนว่า ทุกคนมีสิทธิ และเสรีภาพในการพูด เขียน หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆได้ แต่ ความผิดฐานหมิ่นประมาท ถูกบัญญัติมาเพื่อปกป้อง ไม่ให้ผู้ใด พูด เขียน หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ จนไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนจนเกิดความเสียหาย ต่อชื่อเสียง เกียรติยศ หรือถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จากสังคม ยกตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างที่ 1 นาง ก. ไปพูดกับต้นไม้ว่า นาง ข. เป็นชู้กับ นาย ค. แบบนี้ทางกฎหมายไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ตัวอย่างที่ 2 นาง ก. ไปพูดกับ นาง จ. ว่า นาง ข. เป็นชู้กับ นาย ค. กรณีนี้ถือว่า นาง ก. กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท
การจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทได้นั้น ผู้ใดเจตนาใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จะเห็นได้ว่า จากตัวอย่างที่ 1 นาง ก. ไปพูดกับต้นไม้ ซึ่งต้นไม้ไม่ได้มีสภาพบุคคล ต้นไม้ไม่ได้เข้าใจว่า นาง ก. พูดอะไร จึงไม่สามารถทำให้ นาง ข. และ นาย ค. เสื่อมเสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นว่าเป็นคนไม่มีศีลธรรม หรือถูกเกลียดชังจากคนในสังคมได้ แต่ตัวอย่างที่ 2 นาง ก. ไปพูดกับ นาง จ. เช่นนี้ทำให้ นาง ข. และ นาย ค. เสื่อมเสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังจากสังคม จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ตัวอย่างที่ 3 นาง ก. ไปพูดกับ นาง ง. ว่า นาง ข. เป็นชู้กับ นาย ค. ซึ่ง นาง ง. หูหนวก และเป็นใบ้ กรณีนี้ถือว่าแม้ นาง ง. จะมีสภาพเป็นบุคคล แต่ นาง ง. ไม่ได้ยินและไม่เข้าใจว่านาง ก. พูดอะไร จึงเป็นการกระทำความผิดฐานพยายามหมิ่นประมาท แต่ถ้า นาง ก. ไปพูดกับ นาง ง. ด้วยภาษามือ ว่า นาง ข. เป็นชู้กับ นาย ค. และ นาง ง. เข้าใจ นาง ก. กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท
ดังนั้น การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามจึงเป็นองค์ประกอบในการกระทำความผิดที่ความสำคัญและจะเป็นการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ ก็ต่อเมื่อบุคคลที่สามได้รับทราบข้อความและเข้าใจข้อความหมิ่นประมาทนั้น ไม่ว่าข้อความนั้นจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ดังคำกล่าวที่ ไม่จริงก็ผิด ยิ่งจริง ก็ยิ่งผิด
การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ไม่จำกัดแค่การพูด เท่านั้น อาจใช้วิธีการใด ๆ ก็ได้ เช่น การเขียน การพิมพ์ หรือ การโพสต์ข้อความ หรือรูปภาพ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือประกาศ หรือโฆษณา อันมีลักษณะทำให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก และมีโอกาสที่ข้อความดังกล่าวนั้น จะถูกเผยแพร่ออกไปด้วยความรวดเร็ว ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 328 ยกตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างที่ 4 นางสาว A. โพสต์ข้อความบน Facebook ของตนเองว่า นาย B. ยืมเงิน นางสาว A. ไปจำนวน 10,000 บาท แล้วไม่คืน ขอให้ นาย B. นำเงินมาใช้หนี้ด้วย
นางสาว A. แม้จะโพสต์ข้อความบนFacebook ของนางสาว A. เอง แต่การกระทำดังกล่าวอาจทำให้นาย B. เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นได้ นางสาว A. จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ตัวอย่างที่ 5 นางสาว A. ไปคอมเมนท์ที่ในโพสต์ นางสาว B. ว่า “ ท้องหรอ ถึงรีบแต่งงาน ”
คอมเมนท์ของ นางสาว A. ทำให้นางสาว B. เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น นางสาว A. จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และถ้าข้อความดังกล่าวของนางสาว A. เป็นข้อความเท็จ นางสาว A.จะมีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ด้วย
ตัวอย่างที่ 6 นางสาว A. ไปคอมเมนท์ที่ในโพสต์ นางสาว B. ว่า “ อีโง่ ”
คอมเมนท์ของ นางสาว A. คำว่า “ อีโง่ ” ถือเป็นคำด่า แสดงถึงการถูกเหยีดหยาม เป็นคำที่ทำให้ผู้ถูกด่ารู้สึกไม่ดี ด้อยค่าตนเอง ข้อความเช่นนี้ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท แต่เป็นความผิดฐานดูหมิ่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ที่ว่า “ ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่ง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ”
ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดไปละเมิดสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของบุคคลอื่น ก่อนจะนินทาใคร หรือก่อนที่โพสต์ข้อความ หรือแชร์ หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ ในสังคมออนไลน์ ให้ระวังอย่ากระทบบุคคลอื่น จนทำให้บุคคลนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เพราะเมื่อบุคคลผู้ถูกกระทำนั้นทราบการกระทำความผิด บุคคลผู้ถูกกระทำสามารถดำเนินคดีอาญาและเรียกค่าสินไหมทดแทน เพื่อไม่ให้บุคคลใดละเมิดสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของตนได้
“ รับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น ”